魯士陳 求姐約
魯士陳 求姐約一個在泰國流傳多年的真實故事。在那些對研究南方神秘學迷信感興趣的人中。是關於 魯士他馬渣奇異生活的故事,因為他們說他在Khao Chet Yod 的洞穴中消失了 16 年,不管找了多少次,都沒有找到。直到洞穴外的人認為他會消失在洞穴中並會死在洞穴中。
魯士陳 當年就在山洞內修行,可惜進入了結界,去到一個有別於現實的結界,在入面跟不同的神仙學習了很多失傳的法術,16年後才走出了結界,回到現實的世界。
魯士陳 走出山洞沒有人能夠認出他,只見他的頭髮長到拖地,足足16年沒有理髮,據說他在結界內他們的習俗是一年才沖涼一次。
而亦在結界內學習了很多奇怪及失傳的法術,也懂得了醫術,也看過很多與現實世界不能認知的生物及各樣相違背的定律。
這件事實實在在地存在,以下是泰國報導過的資料。
เรื่องจริงที่เล่าขานกันมานานปีของเมืองตรังเรื่องหนึ่ง ในกลุ่มผู้ที่สนใจใคร่รู้ใคร่ศึกษาสายไสยศาสตร์ไสยเวทของแดนใต้ คือเรื่องราวชีวิตสุดพิสดารของคุณตาชาม สรรพจักร หรือฤาษีชาม เพราะว่ากันว่า ท่านเคยหายตัวเข้าไปในถ้ำ บนเขาเจ็ดยอด เมืองตรัง ถึง ๑๖ ปี จนผู้คนที่อยู่ด้านนอกถ้ำ คิดว่า ท่านคงจะเข้าถ้ำหายไปและคงตายคาถ้ำไปเสียแล้ว แต่เข้าไปตามหาในถ้ำเท่าไรก็หาไม่เจอ
จนอยู่มาวันหนึ่ง ๑๖ ปีผันผ่านไป...ท่านเดินออกมาจากถ้ำแห่งนี้ ในรูปลักษณ์ที่ผิดแผกแปลกไป กล่าวคือ ผมและหนวดยาวถึงเท้าและมีวิชาไสยศาสตร์ไสยเวทติดตัวออกมามากมาย ท่านบอกว่า ไปเรียนจากเมืองบังบดมา
จนเป็นที่มาของคำเรียกท่านว่าฤๅษีชาม
เรื่องราวในตำนานหมอแหล่ บ้านควนยวน ผู้เป็นอีกหนึ่งในอาจารย์ของตาคล้อย จันทร์ศร ฆารวาสผู้เรืองอาคมอีกท่านหนึ่งของสายเขาอ้อ ก็เคยหายตัวไปอยู่ในถ้ำบนภูเขาหลายปีก่อนจะกลับออกมา แล้วบอกว่า ไปอยู่ในเมืองบังบด หรือเมืองลับแลมา จนมีเมียมีลูกด้วยกันและเมื่อออกมากลับมาอยู่เมืองมนุษย์แล้ว ลูกก็ตามออกมาช่วยเป็นเสมือนลูกกรอก ลูกกายทิพย์ แต่ภาษาของท่านเรียกว่า เป็นพับแพว คอยช่วยเหลือผู้เป็นพ่อไว้ใช้ลากผัวลากเมียที่มีชู้กลับบ้าน หรือช่วยในด้านเมตตามหาเสน่ห์ ฯลฯ
พระอาจารย์ประสูติ วัดในเตา
นั่นแสดงว่า เมืองบังบด มีอยู่จริงและมีอยู่ทั่วทุกภาคของประเทศไทยหรือในดินแดนสุวรรณภูมิแห่งนี้ เพราะเปรียบเสมือนโลกอีกมิติหนึ่งที่ซ้อนกันอยู่กับโลกมนุษย์ปัจจุบัน เพราะอย่างในภาคเหนือก็มีเรื่องราวของเมืองบังบดหรือว่าเมืองลับแล ที่อุตรดิตถ์, ที่ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ฯลฯ
และหากเมืองบังบดมีอยู่จริงประตูทางเข้าเมืองนี้มีผู้เฝ้าอยู่และประตูมิติสุดอัศจรรย์นี่แหละที่ทำให้เกิดเรื่องราวของ ฤาษีชามขึ้น หลังจากที่ท่านได้ผ่านเข้าออกประตูบานนี้ที่เขาเจ็ดยอด
และกลายมาเป็นตำนานฤๅษีผู้วิเศษแห่งเมืองทับเที่ยง หรือว่า เมืองตรัง
ฤๅษีชาม สรรพจักร...นั้นขึ้นชื่อลือนามว่า เป็นผู้ที่มากด้วยเรื่องเวทมนตร์คาถา ท่านไม่เคยกลัวใคร ท่านจะนับถือคำว่าพระสงฆ์อย่างน้อยต้องถึงอนาคามี คือเป็นพระสงฆ์ที่สำเร็จฌานขั้นสูง นอกนั้นท่านไม่นับถือ เพราะท่านบอกว่า พระสงฆ์ทั่วไปก็ยังมีกิเลสหนาเป็นแค่มนุษย์เสมอเรา
พิธีอาบน้ำให้ฤาษีชาม ซึ่งจะอาบปีละหนึ่งครั้ง
ท่านเคยเล่าให้ศิษย์ใกล้ชิดฟังว่า ท่านนับถือพระพุทธกกุสันโธเป็นใหญ่ ที่สุด เป็นครูใหญ่ของท่าน และท่านจะปฏิบัติตนเพื่อรอพบพระศรีอาริยเมตไตรย เมื่อครั้งที่เดินหายเข้าไปในถ้ำนั้น ท่านเรียนวิชากับฤๅษีในเมืองบังบด ท่านไม่รู้หรอกว่า วันเดือนปีที่หายไปอยู่นั้น มันยาวนานถึง ๑๖ ปี ตามเวลาของโลกมนุษย์
และอย่างที่เล่าไปแล้วว่า เมื่อเดินออกมาจากถ้ำ ท่านก็มีหนวดและผมยาวถึงเท้า จนกลายเป็นที่มาของชื่อฤๅษีชาม ในทุกเดือน ๕ หรือเดือนพฤษภาคมทุกปี จะมีการสรงน้ำท่าน
สรรพศาสตร์วิชาของฤาษีชามนั้น ว่ากันว่า ท่านเก่งเรื่องรักษาคนทุกชนิด ทั้งโรค ทั้งวิกลจริต แต่ที่เก่งที่สุดคือเรื่องเมตตามหานิยมจังงัง ท่านจับหัวใคร รับรองว่า คนนั้นจะลืมบ้านลืมชื่อตนเองในทันที
วิชาปลุกเสกหุงน้ำมันเสน่ห์ของท่าน เป็นน้ำมันที่เสกไม่มีการใส่มวลสารอันใดเพิ่มและไม่ใช่แค่น้ำมันขัน น้ำมันงา เท่านั้น น้ำมันอะไรก็ได้ขลังเช่นกัน เพราะท่านเคยบอกว่าจะขลังไม่ขลังได้นั้นมันขึ้นอยู่กับคาถาของท่านที่เสกแบบไม่เหมือนชาวบ้าน หมอไสยศาสตร์ในตรังรุ่นหลังๆ ต่างรู้ดีว่าท่านเก่งอย่างไร เรียกง่ายๆ ว่าปรมาจารย์สายเมตตาโดยแท้ ถือว่าเป็นสุดยอดฤๅษีในตำนานเมืองตรังอีกท่าน
บุคคลหนึ่งที่เคยเข้าไปสัมผัสเรื่องราวของฤาษีชาม อย่างใกล้ชิดคือ เณรดอย ปิยภัทร สุดศิริ ฆารวาสรุ่นใหม่ของเมืองตรังแห่งบ้านนาท่ามใต้ เคยเล่าเอาไว้ว่า
ครั้งหนึ่งเคยไปสอบถามเรื่องราวของอาจารย์สีชาม สรรพจักร(ฤๅษีชาม) จากภรรยาท่านปัจจุบันยังมีชีวิตอยู่และผมจะเอามารวบรวมกับเรื่องเล่าของชาวบ้านในสมัยนั้นด้วย...เรื่องเล่ามีอยู่ว่า
"ครั้งหนึ่งสมัยนายชามร่ำเรียนวิชาใหม่ๆ ชอบเข้าไปนั่งทำสมาธิและหาของดีตามป่าตามเขาและถ้ำเขาเจ็ดยอด อยู่มาวันหนึ่งท่านได้เข้าไปในถ้ำแล้วหายตัวเข้าไปในอีกเมืองหนึ่งหรือเมืองบังบด มีคนธรรพ์ ซึ่งท่านเข้าไปแล้วก็ได้อยู่ศึกษาเรียนวิชาต่างๆ กับคนธรรพ์เหล่านั้น ในความคิดท่านว่าเป็นเวลาแค่ไม่นาน ระยะเวลาไม่มาก...แต่ตรงกันข้ามในโลกปัจจุบันคนคิดว่าท่านหายไปไหนหลายวัน จนเป็นเดือนจนเป็นปีและหลายๆ ปี จนญาติท่านคิดว่าหายและหาไม่เจออีกแล้ว...
ส่วนตัวตาชามก็คิดว่าคนต้องตามหาท่านแล้วเพราะมาอยู่ที่นี่นานหลายวันจึงหลอกถามทางกลับจากคนธรรพ์แล้วได้หนีกลับมาโลกปัจจุบัน ตาชามเล่าให้เมียท่านฟังว่าท่านวิ่งเข้าถ้ำจากเมืองนู้นแล้วทะลุมาโลกปัจจุบัน เมื่อวิ่งออกมาปรากฏว่าวิ่งออกมาตรงหน้าผาพอดี ท่านวิ่งหยุดไม่ได้เลยกระโดดหน้าผา แต่โชคดีด้านล่างเป็นโคลนจึงรอดมาได้...ท่านกลับมาในโลกปัจจุบันนั้นครบ 16 ปีที่ท่านหายไป ปรากฏว่าหนวดและผมท่านยาวถึงดิน (ชาวบ้านเห็นท่านหนวดยาวผมยาวจึงได้เรียกชื่อท่านว่าฤๅษีชาม)...ท่านปรากฏตัวเป็นที่แปลกประหลาดแก่ชาวบ้านมากมาย
ท่านจึงเล่าเป็นเรื่องราวให้ชาวบ้านฟัง หลังจากท่านออกมาอยู่ตามปกติแล้ว วันหนึ่งมีคนธรรพ์ได้ตามท่านมาแล้วบอกว่าถ้าไม่อยากอยู่เมืองนู้นก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าท่านอยากจะเรียนวิชาอะไรก็ให้ไปนั่งในถ้ำเขาเจ็ดยอดแล้วอธิษฐานคาถาจะปรากฏฉายกับผนังถ้ำให้จดตำราเอา ตาชามก็ได้ไปเรียนวิชาจากผนังถ้ำที่ว่าจนมีวิชาแปลกๆ มากมาย รักษาโรคแปลกๆ คนถูกของถูกกระทำ ก
|